อาการอาหารเน่าก่อนย่อย

             สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน ในฤดูร้อนที่แสนจะอบอ้าวนี้มีภัยอันตรายอยู่อย่างหนึ่งที่คนเลี้ยงงูควรจะรู้และระมัดระวังไว้อย่างมาก นั่นคือเรื่องของอาหารนั่นเองครับ ผู้เลี้ยงหลายๆคนมักจะเห็นว่าช่วงนี้งูเราเริ่มจะย่อยได้รวดเร็วขึ้น เป็นผลเนื่องมาจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นงูเลยสามารถย่อยได้ไวขึ้นตามไปด้วยนั่นเองครับ แต่ด้วยความร้อนที่เพิ่มมากขึ้นของประเทศไทยนั่นเองกลับกลายเป็นภัยร้ายที่ผู้เลี้ยงไม่ควรจะประมาทเลยเชียวหละครับ 

                   ในบทความนี้ผมจะพูดถึงอาการผิดปกติหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกับระบบย่อยอาหารของงูนั่นก็คือ 

“อาการอาหารเน่าก่อนย่อย” 

                อาการนี้หลายๆคนคงจะงงว่ามันคืออาการอะไร ผมจะอธิบายแบบสั้นๆดังนี้ครับ

      เมื่องูกินอาหารนั้นเหยื่อจะไม่มีชีวิตแล้วแน่นอน เมื่อไม่มีชีวิตแล้วระบบต่างๆก็หยุดตามไปด้วย เหมือนกับนาฬิกาที่นับถอยหลังเข้าสู่สภาพที่เราเรียกกันว่า เน่า อย่างที่เราเข้าใจกันทั่วไปว่างูนั้นจะใช้เวลาส่วนหนึ่งในการย่อยอาหารของมันและปัจจัยที่ช่วยให้งูย่อยได้ดีนั้นก็คืออุณหภูมิ แต่ถ้าหากอาหารของมันเน่าก่อนที่น้ำย่อยจะออกมาหรือก่อนที่น้ำย่อยจะทำงานได้เต็มที่ เพราะอุณหภูมิที่สูงเกินไปล่ะ จะเป็นยังไง ?

      ในสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวและอุณหภูมิไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ งูที่อาหารเน่าในท้องก่อนที่น้ำย่อยจะออกมาหรือเน่าก่อนที่น้ำย่อยจะทำงานได้เต็มที่นั้น มันจะค่อยๆอ้วกออกมาซึ่งเราจะสังเกตได้ว่า หนูจะมีสภาพเป็นตัวๆอย่างชัดเจนแต่จะมีสีคล้ำและส่งกลิ่นเหม็น ซึ่งวิธีที่งูอ้วกออกมานี้ก็จะช่วยทำให้งูรอด เพราะเป็นการปรับตัวตามสัญชาติญาณของมัน

      แต่ด้วยสัญชาติญาณที่เปลี่ยนไปก็มีงูที่ไม่ยอมคายออกมาเช่นกัน ถ้าหากงูไม่ยอมอ้วกออกมาก็มักจะจบด้วยการสูญเสียอยู่เสมอ เพราะแบคทีเรียและเชื้อโรคของสัตว์ที่เน่าอยู่ในตัวนั้นมันส่งผลเสียมากๆกับระบบต่างๆภายในตัวงู รวมถึงก๊าซต่างๆที่ค่อยๆเกิดในช่องท้องของงู ซึ่งงูเองก็จะมีอาการดิ้นอย่างทุรนทุรายและบิดลำตัวอย่างทรมานไปรอบๆกล่องเลี้ยง และก็ตายในที่สุด

วิธีสังเกต

1. ควรสังเกตระยะเวลาการย่อยของงูในช่วงที่อุณหภูมิกำลังเริ่มสูงขึ้นจนเรารู้สึกได้ เวลาปกติที่งูใช้ในการย่อยหน้าร้อน (อุณหภูมิประมาณ 33 - 35 องศาเซลเซียส) นั้นจะอยู่เฉลี่ยที่ 4 - 7 วัน มักจะไม่เกินนี้เท่าไหร่ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับขนาดของเหยื่อที่ให้ด้วยครับ

2. งูมีอาการเลื้อยกระสับกระส่ายหรือไม่ เลื้อยไปเลื้อยมาผิดปกติ หรือเลื้อยแรงและเร็วจนสังเกตได้ ถ้าเกิดอาการแบบนี้แล้วข้างนอกไม่มีสิ่งเร้าอื่นๆเช่นการแหย่เล่นหรือทำให้ตกใจก็ให้เอะใจไว้ก่อนเลยครับ

3. อึของงูมีลักษณะเหลวและดำผิดปกติ และมีกลิ่นที่แรงมากผิดปกติ อันนี้อาจจะสังเกตยากเสียหน่อยครับเพราะปกติเวลางูอึออกมาจะเจอพวกวัสดุรองพื้นเลย แต่ถ้าเห็นอึสดๆก็จะดีมาก

4. งูตด ใช่ครับ อ่านไม่ผิด งูสามารถตดได้เช่นกัน และเมื่อมีแก๊สในท้องจะตดบ่อยและดังกว่าปกติ

          ทีนี้เราก็รู้วิธีการสังเกตอาการอาหารเน่าก่อนย่อยกันไปแล้ว สิ่งที่ควรจะทำต่อมาก็คือการป้องกันและแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียตามมา วิธีการป้องกันและแก้ไขมีดังนี้ครับ

วิธีป้องกันและแก้ไข

1. พยายามทำให้อากาศในสถานที่เลี้ยงคงตัวและปกติมากที่สุด อาจจะด้วยการเปิดแอร์ เปิดพัดลม พัดลมดูดอากาศ หรือเปิดหน้าต่างเพื่อไล่ลมร้อนออก

2. ไม่อัดอาหารเกินพอดี ผู้เลี้ยงและบรีดเดอร์มือใหม่บางคนเห็นงูกินดีมากในช่วงนี้ เลยอัดอาหารกะให้โตเร็วๆเพื่อให้ทันฤดูผสม ซึ่งบางคนอัดเพิ่มทั้งปริมาณและระเบิดไซส์อาหารไปด้วย นี่ถือว่าเป็นการผิดวิสัยการกินของงู ยิ่งถ้าไม่ได้คุมอุณหภูมิที่พอดีกับการย่อยแล้ว ยิ่งเสี่ยงใหญ่ครับ

3. ย้ายงูไปไว้ในที่ๆอากาศปกติ สักประมาณ 25 - 32 องศาเซลเซียส งูจะแฮปปี้ขึ้นเยอะเลยครับ

4. หากงูมีอาการแล้ว และไม่ยอมคายเหยื่อออกมา ให้เราพาไปในที่ๆมีอากาศเย็นๆหน่อยและค่อยๆรีดอาหารที่เน่าออกมา อาจจะช่วยไม่ได้ 100% ก็อย่างน้อยก็มีโอกาสรอดครับผม

5. งูบางตัวอาจจะน็อคจากความร้อนจนอ่อนแรงแทบไม่ขยับ ก็ให้เอาแช่น้ำอุณหภูมิห้อง น้ำไม่ต้องท่วมตัวงูนะครับ ช้อนเอาหัวพาดไว้ด้านบนอย่าให้หัวงูจมน้ำครับ จะช่วยได้ราวๆ 20 - 30% 

      ในอากาศเมืองไทยที่ร้อนแบบนี้นี้ ยิ่งในฤดูร้อนชนิดที่เรียกว่านรกยังเย็นกว่า การเลี้ยงงูก็ควรจะเอาใจใส่และไม่ควรประมาทนะครับ นอกจากอาการอาหารเน่าก่อนย่อยแล้วในฤดูร้อนยังมีอาการ Heat Stroke อีกด้วยครับ ขนาดคนยังแทบเป็นลมกันเลย เพราะฉะนั้นอย่าลืมดูแลงูของคุณด้วยนะครับ ถึงเป็นงูที่อาศัยอยู่ในเขตร้อนก็สามารถเป็น Heat Stroke และมีอาการอาหารเน่าก่อนย่อยได้เช่นกันครับ

       หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามผมได้ที่ Facebook ได้เลยครับผม และขอแนบคลิป อ้วกของงูคอร์น ให้ชมกันเป็นความรู้ด้วยครับผม

________________________

ติดต่อโฆษณาได้ที่ 095-636-8778 (เกศ)